” Whale Logistics Group ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรระดับมืออาชีพชั้นนำ (Professional logistics provider) มุ่งสนับสนุนกลุ่มลูกค้าหลากหลายอุตสาหกรรม ด้วยเป้าหมายสร้างความเป็นเลิศด้านการปฏิบัติการ พร้อมต่อยอดการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน “
นับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทเมื่อปี 2013 ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา Whale Logistics Group หรือ Whale ได้เดินหน้าขยายเครือข่ายการให้บริการอย่างต่อเนื่อง จากจุดเริ่มต้นในฐานะผู้ให้บริการคลังสินค้าแบบ Built-To-Suit และคลังสินค้าให้เช่า ปัจจุบัน บริษัทฯ นำเสนอบริการที่หลากหลาย อาทิ บริการคลังสินค้าทั่วไปและคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ลานสินค้าและคลังสินค้าปลอดอากร (Free Zone) บริการศูนย์กระจายสินค้า บริการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุก บริการรับจัดการขนส่งสินค้าและดำเนินการด้านพิธีการศุลกากร รวมไปถึงโซลูชันไอทีสำหรับการปฏิบัติการด้านโลจิสติกส์ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านโลจิสติกส์ของลูกค้าอย่างครอบคลุม ในฐานะพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ระดับมืออาชีพที่ลูกค้าไว้วางใจ
คุณธีรจิตร สอนแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท Whale Logistics Group พูดคุยเกี่ยวกับจุดแข็งด้านบริการแบบครบวงจร แนวทางการให้บริการและมุมมองด้านการปฏิบัติการ รวมถึงแผนการพัฒนาธุรกิจและบริการของ Whale เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์มืออาชีพที่ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ
คุณธีรจิตร เปิดเผยว่า “Whale มุ่งมั่นให้บริการด้านโลจิสติกส์ พร้อมจุดเด่นด้านโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการปฏิบัติการที่เหนือระดับ เราไม่ได้ให้บริการเพียงเพื่อตอบสนองความต้องการด้านโลจิสติกส์ในแต่ละงานอย่างเดียวเท่านั้น แต่ Whale ยังทำหน้าที่ในฐานะพันธมิตรที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่ธุรกิจของลูกค้าด้วย เรามีเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรระดับมืออาชีพที่เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับเป็นอันดับต้นๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ โดยเรามุ่งเน้นการสร้างมูลค่าและความสำเร็จให้แก่ลูกค้าผ่านการลงทุนในด้านบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับประสิทธิภาพทั้งด้านปฏิบัติการและการให้บริการของเราอย่างดีที่สุด”
Comprehensive Free Zone Services
ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน คลังสินค้าและลานจัดเก็บสินค้าปลอดอากรถือเป็นหนึ่งในหน่วยธุรกิจการให้บริการหลักของ Whale โดยบริษัทฯ นำเสนอโซลูชันจัดเก็บสินค้าที่ครอบคลุมแก่ลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของไทย รวมทั้งภูมิภาคเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆ อย่างพรมแดนระหว่างประเทศ ไทย-ลาว
โดยคลังสินค้าและลานจัดเก็บสินค้าปลอดอากรของ Whale สามารถรองรับสินค้าของลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ เกษตรกรรม และอีคอมเมิร์ซ โดยคุณธีรจิตรเผยว่า “ลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ของเรา ประกอบไปด้วยแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ซึ่งต่างไว้วางใจในความเป็นมืออาชีพของ Whale ในการจัดการกับสินค้าพิเศษ อย่างรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความอ่อนไหวสูง จำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตัวสินค้าอย่างลึกซึ่ง เพื่อให้การปฏิบัติการเป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ขณะที่กลุ่มสินค้าภาคเกษตรกรรม ทีมงานของ Whale เรามีประสบการณ์ในการจัดการ การรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าประเภทพืชเศรษฐกิจและผลิตภัณฑ์อาหาร การันตีด้วยมาตรฐานระดับสากลอย่าง GMP และ ISO 9001 นอกจากนี้ ด้วยตำแหน่งที่ตั้งทางกลยุทธ์และทีมงานที่มีประสบการณ์ ผนวกกับโครงสร้างพื้นสร้างที่เพียบพร้อมของ Whale ยังสนับสนุนให้บริการคลังสินค้าและโลจิสติกส์ของเราได้รับการตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากในกลุ่มลูกค้าธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่มองหาโซลูชันการจัดเก็บสินค้าที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ทั้งในแง่ของการจัดเก็บ การจัดการ และการกระจายสินค้า”
ทั้งนี้ Whale ปฏิบัติการคลังสินค้าและลานสินค้าปลอดอากรทั้งสิ้นหกสาขาในปัจจุบัน โดยมีพื้นที่รวมมากกว่า 350,000 ตร. ม. มอบขีดความสามารถในการจัดเก็บยานยนต์ทั้งสิ้น 100,000 หน่วย ชิ้นส่วนยานยนต์ 70,000 พาเลท สินค้าโลหะ 180,000 ตัน และสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป 10,000 พาเลท
นอกจากนี้ Whale ยังตั้งเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจและเพิ่มพื้นที่ให้บริการผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร ภายใต้โมเดลธุรกิจแบบแฟรนไชส์ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ Whale ได้ร่วมมือกับ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) (CCP) จัดตั้งบริษัท Charlie Top Logistics Solution เพื่อดำเนินแผนการก่อสร้างอาคารคลังสินค้า จำนวนสองเฟส พื้นที่รวมราว 22,000 ตร.ม. ภายใต้มูลค่าการลงทุนมากกว่า 400 ล้านบาท โดยมุ่งสนับสนุนความต้องการของกลุ่มลูกค้าผู้นำเข้าส่งออก สินค้า Transit Shipment และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ รวมถึงผู้ประกอบการและโรงงานต่างๆ ในพื้นที่ EEC และท่าเรือแหลมฉบัง โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถเริ่มให้บริการได้ในช่วงไตรมาสที่สี่ ปี 2023
นอกเหนือจากการให้บริการคลังสินค้าและลานจัดเก็บสินค้าปลอดอากรแล้ว Whale ยังนำเสนอโซลูชันโลจิสติกส์ครบวงจรให้แก่ลูกค้า โดยครอบคลุมตั้งแต่การจัดการและจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้าทั่วไปและคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ บริการขนส่งสินค้าโดยรถบรรทุก บริการรับจัดการขนส่งสินค้าทางทะเลและอากาศ และบริการผ่านพิธีการศุลกากร ไปจนถึงบริการออกแบบและสร้างคลังสินค้าสำหรับความต้องการเฉพาะของธุรกิจ (Built-to-Suit Warehouse) บริการที่ปรึกษาการลงทุนระหว่างประเทศ และโซลูชันไอทีสำหรับการปฏิบัติการด้านโลจิสติกส์ ในฐานะพันธมิตรที่พร้อมสนับสนุนธุรกิจของลูกค้าให้ประสบความสำเร็จโดยแท้จริง
End-to-End Logistics Solutions
Whale ดำเนินธุรกิจภายใต้มาตรฐานการปฏิบัติการและความปลอดภัยระดับสูงสุด พร้อมใช้ประโยชน์จากความร่วมมือระหว่างหน่วยธุรกิจต่างๆ ของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทฯ ได้มอบบริการโลจิสติกส์ที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพซัพพลายเชน ลดต้นทุนการดำเนินงาน พร้อมเปิดโอกาสทางธุรกิจให้แก่ลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอยู่เสมอ
คุณธีรจิตร กล่าวว่า “ที่ Whale Logistics Group ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความเป็นธรรมต่อลูกค้า คือสิ่งสำคัญสูงสุดของเรา นั่นเป็นเหตุผลที่เรารับประกันว่าสินค้าทั้งหมดที่จัดเก็บในคลังสินค้าและลานของเรา หรือสินค้าที่ได้รับการจัดการโดยทีมงานของเรา จะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและทั่วถึง พร้อมมีระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง ไปจนถึงแนวทางการจัดการที่ยุติธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน”
“เป้าหมายการทำงานของเราคือ การได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า และลูกค้ามีความเชื่อมั่นว่าเราจะสนับสนุนธุรกิจของพวกเขาอย่างเต็มที่และพร้อมที่จะเติบโตไปด้วยกัน โดยปัจจุบัน ทีมงานระดับมืออาชีพของเราให้บริการจัดการตู้สินค้าราว 15,000 ตู้ต่อเดือน ในพื้นที่คลังสินค้าและลานสินค้ารวมกว่า 800,000 ไร่ พร้อมกองรถบรรทุกมากกว่า 500 คัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราจะสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ได้อย่างครอบคลุมและครบถ้วน”
กลุ่มบริษัท Whale Logistics Group
Innovation and Efficiency
นอกเหนือจากการปฏิบัติการโดยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์เฉพาะด้านมาอย่างยาวนานแล้ว Whale ยังได้มีการผสานนวัตกรรมและนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาปรับใช้ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่มีคุณภาพ รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น ภายใต้ต้นทุนการจัดการที่สมเหตุสมผล ขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมและร่วมขับเคลื่อนความสำเร็จให้แก่ธุรกิจของลูกค้า ผ่านบริการคลังสินค้าและโลจิสติกส์ที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม
การลงทุนด้านเทคโนโลยีนับเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญสำหรับแนวทางการพัฒนาธุรกิจของ Whale โดยบริษัทฯ ได้จัดตั้งหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อพัฒนาระบบการจัดการคลังสินค้า (WMS) และระบบการจัดการขนส่ง (TMS) ของบริษัทฯ เองขึ้น ซึ่งช่วยให้การจัดการคลังสินค้าและการขนส่งมีความสอดคล้องกับข้อมูลด้านการปฏิบัติการเชิงลึกของบริษัทฯ โดยตรง พร้อมด้วยฟีเจอร์การติดตามและตรวจสอบสถานะของสินค้าแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ Whale สามารถจัดการสินค้าและการปฏิบัติการในทุกขั้นตอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดการชิ้นส่วนอะไหล่ภายในคลังสินค้าในเขตปลอดอากร การตรวจสอบข้อมูลสินค้าคงคลังในแต่ละวัน หรือการจัดการผลผลิตทางการเกษตร
“Whale เชื่อในการบูรณาการเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนวัตกรรมและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ด้วยเหตุนี้ เราจึงลงทุนในโซลูชันระบบไอทีที่ได้รับการออกแบบเฉพาะ เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถดำเนินการด้านโลจิสติกส์ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ทั้งด้านการปฏิบัติการและการจัดการต้นทุน โดยปัจจุบัน เราได้ประสบความสำเร็จในการส่งมอบสิทธิประโยชน์ดังกล่าวให้แก่ลูกค้าของเราแล้วหลายราย” คุณธีรจิตร กล่าว
Professional Logistics Provider
Whale ดำเนินธุรกิจภายใต้แรงขับเคลื่อนจากเป้าหมายในการก้าวขึ้นเป็น ‘ผู้ให้บริการโลจิกส์ติกส์ระดับมืออาชีพ’ หรือ ‘Professional Logistics Provider’ ที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ โดยตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะผู้ให้บริการมืออาชีพ ผ่านความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพ มาตรฐานการดำเนินงานและความปลอดภัย และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน อุปกรณ์สำหรับการปฏิบัติการและสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
ด้วยความมุ่งมั่นที่มีต่อการยกระดับมาตรฐานและคุณภาพบริการอย่างไม่หยุดยั้ง ได้ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับการยอมรับในฐานะสมาชิกขององค์กรระหว่างประเทศที่หลากหลาย อาทิ WCA Inter Global, JC Trans และ TIFFA พร้อมทั้งยังได้รับการรับรองมาตรฐานต่างๆ มากมาย อาทิ การรับรองด้านการตรวจสอบยานยนต์จากรัฐบาลออสเตรเลีย, การรับรองมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพ ISO 9001/2015, การรับรองหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร (GMP), การรับรองสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากรระดับ Gold Class , การรับรองระบบการจัดการความปลอดภัยทางถนนและการจราจร ISO 39001 , การรับรองมาตราฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 และการรับรองมาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก Q Mark
สำหรับ Whale การดำเนินการในฐานะผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระดับมืออาชีพ บริษัทฯ มองว่าพวกเขาจะต้องเริ่มต้นจากบุคลากรคุณภาพที่เพียบพร้อมด้วยความสามารถและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมฯ ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงลงทุนในการเสริมทักษะแก่พนักงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการอบรบจากวิทยากรพิเศษ หรือการส่งพนักงานไปฝึกอบรมในต่างประเทศ นอกจากนี้ การเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระดับมืออาชีพสำหรับ Whale ยังจำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้มาตรฐานสูงสุด ซึ่งไม่เพียงแต่ต้องได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนอีกด้วย โดยความใส่ใจในปัจจัยรอบด้านเหล่านี้ ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ลูกค้าทั้งรายใหญ่และเล็กต่างไว้ใจและเลือก Whale เป็นพันธมิตรด้านโลจิสติกส์สำหรับธุรกิจของพวกเขาในระยะยาว
คุณธีรจิตรกล่าวปิดท้ายการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ว่า “ท้ายที่สุดแล้ว เป้าหมายของ Whale คือการส่งเสริมความร่วมมือทางธุรกิจที่ยั่งยืน ผ่านการมอบโซลูชันโลจิสติกส์ที่เป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้ เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกันในระยะยาวสำหรับทั้งบริษัทของเราและธุรกิจของลูกค้า สำหรับเราแล้ว นี่คือนิยามของการเป็น ‘ผู้ให้บริการโลจิกส์ติกส์ระดับมืออาชีพ’ ที่แท้จริง”
” Whale Logistics Group ดำเนินธุรกิจด้วยบริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการด้านโลจิสติกส์ ภายใต้ความมุ่งมั่นในการส่งมอบประสิทธิภาพและความปลอดภัย สำหรับสินค้าทุกชิ้นของลูกค้า นอกจากนี้ การมุ่งเน้นความเป็นเลิศในการดำเนินงาน การส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ล้วนส่งผลให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระดับมืออาชีพชั้นนำของเมืองไทยภายในเวลาเพียงหนึ่งทศวรรษ และพร้อมที่จะก้าวสู่ทศวรรษต่อไปอย่างมั่นคง “